สารจากศาสตราจารย์
Jean-Louis Armand อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณแด่ ฯพณฯ นายอานันท์ ปันยารชุน
เนื่องในโอกาสที่ ฯพณฯ ได้ให้เกียรติแก่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) รับดำรงตำแหน่ง
ประธานคณะกรรมการอำนวยการของสถาบันฯ ทางสถาบันมีความภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พัฒนาเว็บไซต์แห่งนี้
มอบแด่ ฯพณฯ อันจะยังประโยชน์ใน การเผยแพร่ผลงาน ความสำเร็จ และความอุทิศตน ที่ ฯพณฯ
มีให้ทั้งภาครัฐและเอกชน ฯพณฯ นายอานันท์ ปันยารชุน
ได้รับเลือกเข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการอำนวยการสถาบันฯ เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๓
โดยเป็นการดำรงตำแหน่งต่อจาก หม่อมหลวงพีรพงษ์ เกษมศรี อดีตราชเลขานุการส่วนพระองค์ในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ฯพณฯ นายอานันท์ ปันยารชุน นับเป็นประธาน คณะกรรมการอำนวยการคนที่ ๖ ของสถาบันฯ โดยผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการอำนวยการสถาบันฯในอดีตมีลำดับดังนี้
ฯพณฯ ดร.พจน์ สารสิน, ศาสตราจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์, ศาสตราจารย์ออสการ์ มาปัว, ฯพณฯ
ดร.ถนัด คอมันตร์ และ หม่อมหลวงพีรพงษ์ เกษมศรี ฯพณฯ
นายอานันท์ มีความสัมพันธ์กับสถาบันมาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่ปี ๒๕๐๑ ซึ่งสถาบันยังมีฐานะเป็นวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาวิศวกรรมศาสตร์แห่งองค์การ
สนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีโต้ หรือ สปอ.) และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ฯพณฯ ได้เดินอยู่เคียงข้างความก้าวหน้าของสถาบันโดยให้ความ ร่วมมือในกิจการต่าง ๆ
ของสถาบันอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ชื่อเสียง
และความเป็นเลิศทางวิชาการของเอไอที แม้ว่ายังมีหน้าที่ รับผิดชอบอีกเป็นจำนวนมากทั้งกิจการในประเทศและต่างประเทศ
ฯพณฯ นายอานันท์ได้เคยกล่าวไว้ว่า เอไอทีไม่พึงทะเยอทะยานเพื่อเป็นดั่งเอ็มไอที (สถาบัน
เทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซต) เนื่องจากเอไอทีไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะใช้สอยในการนั้นได้
เอไอทีต้องพัฒนาในทิศทางของตนเองโดยอิงกับข้อเด่นที่สถาบันมีอยู่ เอไอทีจะต้องมุ่งสู่ความเป็นเลิศ
ทั้งในทางวิชาการ และทางการบริหาร แม้ว่าจะมีทรัพยากรจำกัด อีกทั้งยังมุ่งที่จะเป็นสถาบันด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
เพื่อการนี้สถาบันจะต้องระบุปัญหาเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายให้แน่ชัดและหาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเร่งด่วน
เราทุกคนจำเป็นต้องทบทวนสิ่งที่เราได้ทำมาใน อดีตและสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และนำข้อคิดที่ได้มาใช้ปรับปรุงการทำงานและหน้าที่ความรับผิดชอบที่มีต่อเอไอทีและอนาคตของสถาบันเสียโดยร่วมแรงร่วมใจกัน
ภายใต้การนำของ ฯพณฯ นายอานันท์ ปันยารชุน ทางสถาบันได้มีการปรับโครงสร้าง
และองค์ประกอบของคณะกรรมการอำนวยการสถาบันเพื่อให้เกิดความ เหมาะสม ปัจจุบัน เอไอทีสามารถยืนหยัดในฐานะสถาบันระดับนานาชาติได้อีกครั้ง
เทียบได้กับเมื่อครั้งก่อตั้งสถาบันเอไอทีในปี ๒๕๐๔ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศของประเทศสมาชิกผู้ก่อตั้งสถาบันทั้งแปดประเทศ
ได้เข้าร่วมพิธีมอบปริญญาบัตรครั้งแรก ในฐานะสถาบันอิสระเพื่อการศึกษาในระดับสูงของภูมิภาค
เอเชีย สถาบันฯ ได้เน้นความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาค
ภารกิจของสถาบันฯ คือสนองความจำเป็นเร่งด่วนของภูมิภาค และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลตลอดจนงานวิจัยต่างๆเพื่อสนับสนุนการพัฒนาภูมิภาค
เอไอทีได้ทบทวนบทบาทและมี เป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางทางวิชาการระหว่างภูมิภาคเอเชียกับสถาบันชั้นนำหลาย
ๆ แห่งทั่วโลก โดยการดำเนินการยังคงเน้นที่ความต้องการที่แท้จริงของภูมิภาค และการถ่ายทอดเทคโนโลยี
ด้วยคณาจารย์กว่า ๒๐๐ คนจากนานาประเทศ เอไอทีได้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายทางวิชาการระดับนานาชาติโดยผ่านทางการแลกเปลี่ยน
คณาจารย์และนักศึกษา ตลอดจนโครงการปริญญาคู่ควบ (dual degree programs) กับสถาบันชั้นนำทั่วโลก
สถาบันเอไอทีได้เจริญเติบโตขึ้นอย่างสง่างาม พร้อมกันนั้นได้สร้างสมเกียรติประวัติอันน่าภาคภูมิใจในการให้บริการแก่ภูมิภาคเอเชียตลอดช่วงเวลาสี่ทศวรรษที่ผ่าน
มา อันเป็นช่วงเวลาที่ระบบเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก สถาบันสามารถก้าวทันความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
และยังคงดำรงฐานะ สถาบันที่ได้รับความเชื่อถือในการตอบสนองความต้องการของภูมิภาค
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเอไอทีได้แสดงให้เห็นว่าสถาบันสามารถที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย
ใหม่ ๆ และสามารถพัฒนาตนเองให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่งได้
การกำหนดบทบาทและทิศทางของสถาบันในอนาคต จะต้องคำนึงถึงการศึกษา ในสาขาเทคโนโลยีที่กว้างขึ้นในภูมิภาคนี้
โดยสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันชั้นนำแห่งอื่น ๆ แนวทางที่เปลี่ยนไปนี้จะขยายโอกาสในการทำงานร่วมกัน
อย่างแข็งขันกับมหาวิทยาลัยและสถาบันเหล่านั้นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาในภูมิภาค
ความเติบโตของการเรียนการสอน การวิจัย ตลอดจนโครงการความช่วยเหลือต่าง
ๆ ของเอไอที สามารถเห็นได้ชัดเจนจากการขยายตัวครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ นับตั้งแต่ผู้สำเร็จการศึกษารุ่นแรกจำนวนแปดคนของสถาบันในปี
๒๕๐๔ เป็นต้นมา จนกระทั่งวันนี้ เอไอทีได้ผลิตผู้สำเร็จการศึกษาซึ่งมาจากประเทศต่างๆทั่วโลก
มากกว่า ๑๐,๐๐๐ คน ซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีตำแหน่งสำคัญในภาคราชการ
ภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนในภาคการศึกษา เอไอทีมีความพึงพอใจ เป็นอย่างยิ่งกับการที่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันฯ
มากกว่าร้อยละ ๙๐ อาศัยและทำงานอยู่ในภูมิภาคเอเชีย สุดท้ายนี้
ในนามของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ขอถือโอกาสนี้แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่ง
ราชอาณาจักรไทย ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในอันที่ได้ทรงอุปถัมภ์สถาบันด้วยดียิ่งเสมอมา
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสถาบัน อันทำให้สถาบันฯ สามารถก้าว ไปสู่การเป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงของประเทศไทยและภูมิภาคที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติในปัจจุบัน ศาสตราจารย์
Jean-Louis Armand อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
|