รวมปาฐกถาภาษาไทย
คำแถลงการณ์ ในพิธีเปิดสำนักงานยูนิเซฟ จังหวัดขอนแก่น
โดย ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน ทูตองค์การยูนิเซฟ ประจำประเทศไทย
วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมพิธีอันน่าจดจำในวันนี้
ซึ่งเป็นวันทำพิธีเปิดสำนักงานขอนแก่นขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือที่รู้จักกันดีในนามของ
ยูนิเซฟ ผมได้รู้จักและเฝ้าดูการทำงานขององค์การยูนิเซฟ ในฐานะที่เป็นองค์การระหว่างประเทศที่มีความมุ่งมั่นในการทำงาน
เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก ๆ มาหลายทศวรรษ และทุกท่านคงทราบดีว่าตั้งแต่ปี ๒๕๓๙
ผมได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่เป็นทูตยูนิเซฟประจำประเทศไทย ทำให้ผมเห็นคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งขององค์การยูนิเซฟ
คือยูนิเซฟสามารถปรับเป้าหมาย กลยุทธ์ และมาตรฐานต่าง ๆ ในระดับโลก ในการดำเนินการพัฒนาและปกป้องเด็ก
ให้ใช้ได้ในระดับประเทศได้เป็นอย่างดี ตามสำนวนที่ว่า Thinking Globally and Acting
Locally การเปิดสำนักงานขอนแก่น เพื่อดำเนินการและติดตามโครงการความร่วมมือต่าง
ๆ สำหรับเด็ก ๆ ในระดับจังหวัดและภูมิภาค นับเป็นตัวอย่างหนึ่งของการวางนโยบายขยายการพัฒนาสู่ท้องถิ่น องค์การยูนิเซฟ
เป็นหน่วยงานสมาชิกในเครือขององค์การสหประชาชาติ (United Nations) ตั้งขึ้นเมื่อปี
๒๔๘๙ เพื่อตอบสนองความต้องการพิเศษของเด็ก ๆ ในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่
๒ จากนั้น องค์การยูนิเซฟได้ขยายกิจกรรมต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในทวีปเอเชียที่มีองค์การยูนิเซฟตั้งอยู่มามากกว่า
๕๐ ปีแล้ว กรุงเทพมหานครได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการปฏิบัติงานขององค์การยูนิเซฟในประเทศไทย
และยังเป็นสำนักงานองค์การยูนิเซฟในระดับภูมิภาคเอเซียตะวันออกและแปซิฟิกอีกด้วย
ทุกท่านคงจะได้รับแจกหนังสือ ซึ่งเพิ่งจะได้รับการตีพิมพ์ ชื่อ องค์การยูนิเซฟในประเทศไทย
๕๐ ปี แห่งการเดินทาง (UNICEF in Thailand A Journey of Fifty Years) ซึ่งผมขอแนะนำให้ทุกท่านอ่านเพื่อให้ได้มาซึ่งกำลังใจและข้อมูลเพิ่มเติมในการปฏิบัติเพื่อเด็ก
ๆ ทุกคน เหตุการณ์ในวันนี้จะได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญอีกเหตุการณ์หนึ่งในการเดินหน้าต่อไปขององค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย กิจกรรมต่าง
ๆ ขององค์การยูนิเซฟประเทศไทย ในการส่งเสริมการพัฒนานโยบาย การวางแผน และการติดตามโครงการต่าง
ๆ เพื่อให้บรรลุตาม เป้าหมายสุดยอดเพื่อเด็ก ปี ๒๕๔๓ (World Summit Goals for children)
และการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child)
ยังคงต้องดำเนินการต่อไป จึงเป็นสิ่งสำคัญที่องค์การยูนิเซฟ จะขยายการปฏิบัติงานไปในที่ระดับท้องถิ่นโดยขยายการปฏิบัติงานไปสู่องค์การบริหารส่วนจังหวัดและองค์การบริหารส่วนตำบล
รวมทั้งองค์กรของชุมชนและประชาคมที่อยู่ใกล้ประชาชนมากที่สุด ผมมีความยินดีที่องค์การยูนิเซฟ
ได้จัดตั้งสำนักงานโครงการขึ้นที่เชียงใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเด็ก
ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ การทำพิธีเปิดสำนักงานโครงการขอนแก่น นับว่าเป็นก้าวที่มุ่งมั่นอีกก้าวหนึ่งขององค์การยูนิเซฟในทิศทางเดียวกัน
เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเด็นที่น่าสนใจประเด็นหนึ่ง
คือ ในพื้นที่การปฏิบัติงานทั้งสองแห่งขององค์การยูนิเซฟ ทั้งเชียงใหม่และขอนแก่น
มหาวิทยาลัยสองแห่งได้กรุณาให้องค์การยูนิเซฟใช้พื้นที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่น่าประทับใจที่ชี้ให้เห็นว่าสถาบันการศึกษามีบทบาทและความรับผิดชอบที่สำคัญในการพัฒนาสังคม
และการสละเวลาและทรัพยากรเพื่อหล่อหลอมอนาคตที่ดีของชาติเรา ผมขอขอบคุณท่านอธิบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น
รวมทั้งผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ของสถาบันการวิจัยและพัฒนาที่ได้กรุณาสละสถานที่ให้องค์การยูนิเซฟใช้เป็นที่ตั้งสำนักงาน
เพื่อตอบสนองนโยบายในการให้การช่วยเหลือแก่เด็ก ไม่เพียงแต่เฉพาะในขอนแก่นเท่านั้น
แต่ยังรวมไปถึงจังหวัดต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผมจึงอยากขอให้สมาชิกทุกท่านในชุมชนขอนแก่นแห่งนี้
เป็นศูนย์กลางสำหรับเด็ก เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับเด็ก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่ด้อยโอกาสในภูมิภาคนี้ ผมคิดว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะพูดถึงความริเริ่มที่ดีขององค์การยูนิเซฟ
ที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคมไทยอีกประการหนึ่ง ในฐานะที่ผมเป็นทูตยูนิเซฟประจำประเทศไทย
ซึ่งมีส่วนในการช่วยหาทุนจากคนไทยตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการต่าง ๆ
ขององค์การยูนิเซฟ เพื่อช่วยเหลือเด็กไทยผู้ด้อยโอกาส ทุกท่านคงจะภูมิใจถ้าได้ทราบว่าในท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้
เราประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยสามารถระดมทุนได้มากถึง ๕๑ ล้านบาทในปี ๒๕๔๑ และ ๕๘
ล้านบาทในปี ๒๕๔๒ สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการหาทุนที่ต้องกล่าวถึง คือ มากกว่าร้อยละ
๙๐ ของผู้บริจาค จะเป็นบุคคลธรรมดาทั่ว ๆ ไป ซึ่งบริจาคเงินระหว่าง ๒๐๐ ถึง ๑,๕๐๐
บาทให้กับยูนิเซฟ สำหรับภาคธุรกิจเองก็ได้บริจาคเงินเป็นจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ผมคงจะมีความยินดีอย่างยิ่ง
ถ้าชุมชนขอนแก่นจะมีส่วนร่วมในการระดมทุนเพื่อเด็กผู้ด้อยโอกาส ร่วมกับคนไทยทั้งประเทศ
ซึ่งเงินบริจาคส่วนหนึ่งก็จะจัดสรรมาดำเนินโครงการในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะเป็นการดียิ่งถ้าทุกท่านในที่นี้จะช่วยยูนิเซฟอีกแรง
เพื่อทำให้โครงการการช่วยเหลือเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจะทำให้ท่านมีความรู้สึก
มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในโครงการต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
สำหรับการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กในอนาคต เมื่อผมได้ไปเยี่ยมชมโครงการที่หมู่บ้านเหล่านกชุมเมื่อเช้านี้ซึ่งสนับสนุนโดยองค์การยูนิเซฟ
โดยร่วมมือกันช่วยเหลือสถาบันการวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผมมีความประทับใจมากในความก้าวหน้าของโครงการ
และผลที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดี ที่แสดงให้เห็นว่าความตั้งใจ
และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของสหประชาชาติ สถาบันการศึกษา หน่วยงานของรัฐบาล และชุมชนท้องถิ่น
สามารถทำอะไรได้มากมาย ด้วยงบประมาณที่มีอยู่อย่างค่อนข้างจำกัด การที่โครงการนี้มุ่งเน้นช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่ขาดที่ดินทำกิน
ยากจนและด้อยโอกาส โดยการให้การฝึกอบรมอาชีพ และการให้เมล็ดเงินช่วยเหลือ เพื่อให้พวกเขามีอาชีพที่เลี้ยงดูครอบครัวและลูกหลานได้
พร้อมทั้งมีความภาคภูมิใจในตัวเอง ที่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง โครงการนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการวางแผนระดับท้องถิ่น
และการพัฒนาที่มุ่งเน้นคนเป็นหลัก เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้
ดังนั้นเราจำเป็นต้องนำต้นแบบเช่นนี้ ผสมผสานเข้าไปในกรอบการวางแผนและพัฒนาโดยรวมของจังหวัด
เป็นหลักในการดำเนินโครงการอื่นสืบไป โดยสรุป
ผมขอขอบคุณผู้แทนจากกรมวิเทศสหการ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ของจังหวัดทุกท่าน
ร่วมทั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และท่านทุกคนที่มารวมกัน ณ ที่นี้ ที่ให้ความร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟ
สิ่งสำคัญที่พวกเราทุกคนควรจะจดจำไว้ คือ องค์การยูนิเซฟมีวัตถุประสงค์ที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาล
และองค์กรเอกชนในฐานะภาคีเพื่อเด็กไทย ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีแผนพัฒนาระดับประเทศที่ชัดเจน
โดยยึดพระราชดำริทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาแบบยั่งยืนเป็นหลักการทำงาน ท้ายนี้
ผมขอถือโอกาสอวยพรให้คณะทำงานขององค์การยูนิเซฟ และสำนักงานขอนแก่น ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
ที่ได้กำหนดไว้ในการดูแล ปกป้อง พัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพในการมีส่วนร่วมของเด็ก
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสืบไป |