รวมปาฐกถาภาษาไทย

คำกล่าว
ในวันแถลงข่าวคอนเสิร์ต “Voices for Tomorrow”
โดย ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน
ทูตสันถวไมตรียูนิเซฟ ประจำประเทศไทย
๒ ธันวาคม ๒๕๔๑
ณ ห้องประชุมชั้น ๕ องค์การยูนิเซฟ

     ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณบริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่จัดคอนเสิร์ต Voices for Tomorrow เพื่อมอบรายได้ให้องค์การยูนิเซฟ และขอขอบคุณท่านสื่อมวลชนทุก ๆ ท่านที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ เพื่อช่วยกันประชาสัมพันธ์งานดังกล่าวให้เป็นที่ทราบทั่วกัน

     ท่านทั้งหลายคงจะทราบว่าองค์การยูนิเซฟ ดำเนินงานในประเทศไทยมากว่า ๕๐ ปีแล้ว โดยในระยะแรกเราได้รับทุนจากประเทศที่เจริญแล้ว หรือที่เราเรียกว่า donor countries ผ่านสำนักงานใหญ่เพื่อโครงการช่วยเหลือเด็กในประเทศไทย ซึ่งงานในช่วงแรก ๆ นั้น ได้เน้นด้านสุขอนามัยและโภชนาการเป็นหลัก โดยการให้ภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ เพื่อให้เด็กได้มีชีวิตอยู่รอดในช่วงขวบปีแรก ๆ ของชีวิต

     หลังจากเวลาผ่านไป ประเทศไทยพัฒนาศักยภาพขึ้นมาเป็นประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำให้ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นประเทศที่อยู่ในสถานะที่จะช่วยตนเองได้มากขึ้น เงินสนับสนุนจาก donor countries ผ่านองค์การยูนิเซฟสำนักงานใหญ่จึงลดลง เพื่อนำไปสนับสนุนประเทศอื่น ๆ ในโลกที่ยังขัดสนมากกว่า องค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทยจึงเกิดความจำเป็นที่จะต้องหารายได้สนับสนุนโครงการต่าง ๆ ด้วยตนเอง เราจึงต้องฝากความหวังไว้กับแรงศรัทธาและความใจบุญ ใจกุศลของประชาชนคนไทย รวมทั้งบริษัทเอกชนที่จะช่วยกันระดมพลัง ทั้งกำลังเงินและกำลังทรัพย์ในการช่วยสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของยูนิเซฟ

     ปัญหาของเด็กไทยที่กำลังประสบกันอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงปัญหาที่แก้ได้ด้วยการให้ภูมิคุ้มกันเท่านั้น เพราะสภาวะทางสังคม ผนวกกับวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ทำให้วิถีชีวิตของคนไทยต้องตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมน คนงานตกงานเพิ่มขึ้น หลายต่อหลายครอบครัวไม่สามารถจ่ายค่าบริการสุขอนามัยพื้นฐาน หรือส่งลูกไปโรงเรียน หรือแม้แต่จะซื้ออาหารให้ลูกกิน

     ความยากจนเป็นตัวก่อให้เกิดปัญหาต่อเนื่องอีกมากมาย ทำให้เกิดความเครียด เกิดปัญหาด้านจิตใจ เกิดความคิดก้าวร้าว ทำร้ายตนเองและผู้อื่น ดังที่เราเห็นอยู่ในสื่อต่าง ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ผู้ที่ถูกกระทบกระเทือนมากที่สุดในที่นี้คือใคร ผมขอพูดด้วยความมั่นใจว่า เด็ก คือผู้ที่ได้ผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เด็กต้องถูกออกจากโรงเรียนกลางคัน เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินส่งลูกเรียนหนังสือ ออกจากโรงเรียนมาก็ต้องมาขายแรงงานเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวเสริมจากพ่อแม่ งานที่ทำก็มักเป็นงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเพราะขาดความรู้ บางครั้งเด็กหญิงอาจถูกล่อลวงไปขายบริการทางเพศ เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์อีกด้วย

     ดังนี้ ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้ แม้ว่าเราจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม คือความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ เพราะเขาคืออนาคตของชาติ ถ้าเราสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพขึ้นมาได้ เท่ากับว่าเราได้ประกันความมั่นคงและความเจริญของชาติไทยในอนาคต การให้โอกาสในการศึกษาแก่เยาวชนถือเป็นการลงทุนที่สำคัญยิ่ง ที่พ่อแม่พึงมีให้แก่บุตรหลานของตนเอง ทำให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาตนเองสู่ศักยภาพสูงสุด และด้วยเหตุนี้องค์การยูนิเซฟจึงริเริ่มโครงการรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา โดยเฉพาะในสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจเช่นนี้ โดยจะเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนนี้ จนถึงเดือนมีนาคม ๒๕๔๒ ซึ่งเป็นช่วงก่อนการสมัครเข้าเรียนสำหรับปีการศึกษา ๒๕๔๒ เพื่อมุ่งให้พ่อแม่ที่คิดจะให้ลูกหลานออกจากโรงเรียน มาช่วยทำงานนั้น ได้ไตร่ตรองเสียใหม่และเปลี่ยนใจให้ลูกเรียนต่อ

     ดังนั้น ผมจึงฝากความหวังว่า คอนเสิร์ต Voices for Tomorrow จะได้มาสร้างเสริมโครงการต่าง ๆ ของยูนิเซฟ โดยเฉพาะโครงการรณรงค์เรื่องการศึกษาดังได้กล่าวไปแล้วนั้น ให้มีความหนักแน่นยิ่งขึ้น ถือเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างหน่วยงานเอกชน และบุคคลต่าง ๆ ในวงการแสดงและดนตรี ที่ตัดสินใจอุทิศเวลาและพลังทรัพย์ เพื่อประโยชน์ของผู้ด้อยโอกาสกว่าท่าน ในนามขององค์การยูนิเซฟและเด็กไทยทั้งหลาย ผมขอขอบคุณทุก ๆ ท่าน ที่ได้เป็นกำลังสำคัญในคอนเสิร์ตครั้งนี้ และขอให้บุญกุศลที่ท่านสร้างไว้ได้สนองตอบท่านและผู้ใกล้ชิดด้วย